วิชาเกี่ยวกับแก้วและแสง

วิชาเกี่ยวกับแก้วและแสง

อ่านบทความเกี่ยวกับวิชาแก้วและวิชาแสงของ อ.ไฮด์ แล้ว พอดีว่างๆเนื่องจากแฟนขับรถ เรานั่งเฉยๆไม่ได้ทำอะไร จึงอยากจะเล่าวิชาดวงแก้วทาง “สายบุญฤทธิ์เปิดโลก” บ้าง จริงๆคำนี้เป็นคำใหม่ เรียกเพื่อให้เข้าใจได้ง่าย วิธีเจโต. มโนยิทธิ หรือ “เปิดโลก” นี้ สิ่งที่ต้องระวังมากๆ คือ “อุปาทาน” หรือารมณ์ “เฝือ” แต่คนที่เรียนจริงๆก็จะรู้วิธีเช็ค วิธีป้องกัน…

ผมขอเรียกวิชาที่จะกล่าวถึงนี้ว่า “วิชาฉัพพรรณรังสี” นะครับ ประโยชน์ที่ใช้ในวิชานี้เป็นการน้อมนำผลของกรรมฐานเชิงฤทธิ์ต่างๆที่แสดงออกมาในรูปแบบของแสง เช่น สีแดงใช่ในทางคงกระพันหรือต่อสู้ ทางเดชอำนาจ สีทองใช้ในทางลาภ(เป็นทองแบบประกายทองสุกสกาวนะครับ) สีฟ้าหรือเหลืองนวลแบบแสงจันทน์ใช้ทางเมตตา อันนี้ว่าตามการสังเกตนะครับ ส่วนสีอื่นๆ เช่น ม่วง.. เขียว… บอกตามตรงว่ายังเข้าไม่ถึงครับ

ล็อกเก็ต หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า องค์ที่ผมใช้ติดตัว

การเรียนทางกรรมฐาน นิมิตต้องเกิดขึ้นเองแล้วเช็คความถูกต้องกับครู เพื่อกันอุปาทาน ดังนั้นไม่ควรรู้มาก ก่อนจะทำถึง ให้รู้ตามลำดับ ในขณะที่วิชาฤทธิ์ทางไสยศาสตร์หลายวิชา ให้จับอุปาทานและทำอุปาทานให้เป็นจริง….จริงๆก็เป็นกระบวนการย้อนกลับที่เป็นเรื่องเดียวกันครับ… เช่น วิชาเสน่ห์บางวิชา ทำแล้วถ้ามีคนมามองมีสาวมายิ้มให้ อย่าไปหาสาเหตุอื่นให้มั่นใจว่านี่คือเราทำ”ขลัง.”..ยอมให้เกิดอุปาทานเยอะๆและแน่นเข้าๆ ต่อไปมันจะเป็นเรื่องจริงที่บังคับได้ดั่งใจ…หรือแม้แต่วิชาคงกระพัน เราก็ต้องเชื่อมั่นว่า๑หนังเราเหนียวหรือ๒มีดมันทู่ (เอาเข้าจริงมันก็ยากนะไม่ใช่ง่ายๆความเชื่อมั่นมันต้องกล้าแข็งมากๆ เพราะระดับที่ใช้งานได้คือระดับหั่นเนื้อ หรือเชือดกันเลยทีเดียว)…ดังนั้นสำนักไหนที่สอนได้ทั้งกรรมฐานและไสย.ครูจะต้องเก่งมากๆ.. ย้ำอีกครั้งไสยฯ.และกรรมฐานไปด้วยกันได้และเสริมกันได้ดีมากถ้ารู้กระบวนการของ ธาตุ จิตและกระบวนการทางพลังงาน (รูปธรรม และนามธรรม)…

สมัยบวชที่วัดถ้ำเมืองนะ ข้าพเจ้าฝึกในทางกรรมฐานเสียส่วนใหญ่ เพราะสมควรแก่สมณวิสัย และสำนักมากกว่า ทุกๆเช้าตอนบิณฑบาตจะใช้วิชา “ฉัพพรรณรังสี” ครอบกาย และเล่นไล่เฉดสีไปเรื่อยๆ แต่เน้นที่สีทอง(ลาภ) เพื่อโปรดญาติโยม….วันดีคืนดีพระเพื่อนที่มีตาในก็ทัก “สี” ได้ตรงกับกับจังหวะที่กำลังทำอยู่ …. การฝึกทางนี้ท่านไม่ให้สงสัย ทำอย่างมั่นใจ ทำไปเรื่อยๆ ประคองจิตไว้สม่ำเสมอแล้วจะเป็นเอง..ได้ระดับไหน เข้มข้นขนาดไหนอย่าสนใจมากให้ “ทำ ดีกว่าไม่ทำ”

เทคนิคนี้เองข้าพเจ้าพลิกแพลงในการกำยาหม่องให้ละลายคามือ… และหุงยาหม่องให้เกิดผลึกแข็ง แต่ข้า.ยังไร้ความสามารถนัก วิชานี้ทำถึงที่สุดสามารถ ละลายสีผึ้งต่อหน้าต่อตาโดยไม่ต้องกำ สามารถเปล่งแสงให้เกิดความสว่างได้ในยามค่ำคืนขนาดมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ …. ถึงขั้นเนรมิตกายอีกกายให้คนเห็นในที่ห่างไกล….วิชานี้จึงเป็นบาทฐานวิชาแก้วสารพัดนึก….เพราะใช้ไฟเป็นแล้ว จะปิ้งปลา จะทำต้มยำ อย่างน้อยก็สุกพร้อมทานได้… สายหลวงปู่ดู่มีการสอนเสกแก้วสารพัดนึกเช่นกัน แต่ใช้บาทฐานทาง “บุญฤทธิ์”..เป็นเครื่องเสก….

การออกแสงรูปกงจักรของพระขรรค์จักรพรรดิ (คนที่ถือพระขรรค์คือ คุณคำอ้น)

ทางสายหลวงปู่ดู่หลวงตาม้า เช็คการใช้งานของจิตนอกจาก จากความแม่นยำในการตรวจดูและช่วยเหลือภพภูมิแล้ว ยังเช็คจากพระประจำตัวที่ใช้กำภาวนา ว่ามีการขึ้นเม็ดสี การเพิ่มขึ้นของพระธรรมธาตุ ตลอดจนการปรากฎของเม็ดพระธาตุแบบไข่ปลาหรือไม่….(เรื่องพระธาตุขนาดไข่ปลานี้ให้ระวังหน่อยเพราะ เรซิ่นกรองน้ำ” ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์มีลักษณะเหมือนกันมาก) โดยการเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงสีนี้จะเกิดในระบบปิดคือในพระที่เลี่ยมปิดไว้ …. ข้าฯ.ผ่านมือผ่านตามาทั้งสามรูปแบบจึงคลายความสงสัยในเรื่องนี้และสายวิชานี้…บางท่านก็กำพระภาวนาจนพระออกแสงในที่มืด กำหนดพระขรรค์ถ่ายรูปแสงติดเป็นรูปแสงจักร..ดังภาพ

เรซิ่นกรองน้ำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายพระธาตุเม็ดไข่ปลามาก

สมัยเรียนไสย.ในวิชามหาอุด ซึ่งทดสอบโดยการอุดประทัด อันเป็นครั้งแรกของผม หลังครูให้คาถาแล้ว ผมเสกได้พักหนึ่งแล้วเป่าพรวด.!!!….ครูเข้ามาแล้วยิ้มๆบอกว่า “วิชานี้เขาไม่เป่ากัน” เพราะลมจะไปหนุนไฟทำให้ชนวนดินระเบิด “ระเบิด” ได้ …

ใจผมแป้วไปยังตาตุ่ม จึงกำหนดนิมิตไปทื่หลวงปู่ดู่ แล้วบอกท่าน “หลวงปู่ครับ ขออย่าให้อายเขานะครับ ให้เขารู้ว่าสาย บุญฤทธิ์ ก็ทำฤทธ์ได้นะครับ” ผมเสกสักพักจึงไปทดลองกับไฟ …. เสียงไฟไหม้ชนวนดังฟิ๊ต… “ประทัดดอกแรกของผม จุดไม่แตก !!!”

พีธีไหว้ครูและป้อนเหนียวป้อนมันครั้งนั้นมีการบันทึกวีดีโอไว้ด้วย… การไหว้ครูครั้งนั้นจัดเป็นครั้งแรก การอุดประทัดของผมถือว่าอุดได้เป็นดอกแรกในพิธี (ที่ศิษย์ทำการอุดได้…) สำหรับคนที่ไม่เคยอุดประทัดอาจจะค้านว่า มันอาจด้านหรือฟลุ๊คก็ได้….จริงอยู่ มันเป็นไปได้ แต่น้อยมากกกก และครูท่านคงรู้ว่าอาจมีคนสงสัย ท่านเลยอุดทีเดียวสิบดอกต่อเนื่องกันให้ดู จากประทัดกองเดียวกันนั้น … “ไม่แตกสักดอก”…

พระหลวงพ่อทวดที่มีประธาตุเสด็จเพิ่มในระบบปิด จะเห็นว่าขนาดพระธาตุจะคนละขนาดกัน (ปัจจุบันพระองค์นี้ผมบรรจุไว้ภายในพระเปิดโลก ที่ปรียนันท์ธรรมสถาน จ.นครสวรรค์)

ความลับคือ ในตอนนั้นเพราะกลัวเสียชื่อครู มีอะไรผมใส่หมด ตั้งแต่ดับลม ตั้งสูญญากาศ ใส่ธาตุน้ำ จนถึง แผ่พระรัสมีครอบประทัด…. ผลคือดอกแรกทำได้เลย…แต่สองดอกต่อมาแตกสะบัด เพราะคุมจิตไม่ได้ การฝึกจิตนั้นต้อง “วสี” จริงๆถึงจะช่วงใช้ได้ดั่งใจ !!…

บทส่งท้ายผมคิดว่าสรรพวิชามีทางเป็นของตัวเอง ขอให้ฝึกให้ถึง ย่อมใช้งานได้…พลิกแพลงใช้ประโยชน์ได้แก่ตนเองและผู้อื่น และเมื่อศึกษาอย่างถ่องแท้ ก็สามารถประสานรวมเป็นหนึ่งได้ …. จะกรรมฐานสายไหนก็ตาม วิทยาศาสตร์ ไสยศาสตร์ ล้วนดีทั้งสิ้น บัณฑิตพึงศึกษาให้ถ่องแท้ และไม่ดูแคลนสายวิชากันและกันเถิดหนา……

หมวดอรรถ

๓๐ ธ.ค.๖๑

ทีมงาน: ssbedu.com

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook
คะแนนเฉลี่ยที่ผู้อ่านให้
[จำนวนผู้โหวต: 3 คะแนนเฉลี่ย: 3.7]
Bookmark the permalink.

Comments are closed.