ฝอยการใช้ลูกแก้วมหาจักรพรรดิ ปรับภพภูมิ-แต่งเมือง (เพิ่มเติม ๒๕๖๒)

ที่มา

ราวๆ ปี ๒๕๔๙ เป็นต้นมา ข้าพเจ้าได้ศึกษา “ศาสตร์หลวงปู่ดู่หลวงตาม้า  และได้ทยอยๆ เขียนบทความที่มีประโยชน์ในศาสตร์นี้มอบให้เพื่อนนักปฏิบัติทั้งหลาย โดยเนื้อหาได้จากการ “เสี่ยงครู” จากการทดลองปฏิบัติและเห็นว่ามีผลจริง (แม้อาจไม่เต็มที่นักด้วยเพราะผมเองก็เป็นเพียงปุถุชนคนธรรมดาคนหนึ่งที่ยังต้องฝึกไปเรื่อยๆและอีกมาก..) บทความหลายบทความก่อนเผยแพร่ ได้ขึ้นกราบเรียนขออนุญาตและเช็คความถูกต้องกับหลวงตาก่อน หรือได้รับการสอบทานจากหลายศาสตร์ว่า “ตรงกัน” ไม่นอกลู่นอกทาง

แนวคิดบทความนี้ได้มาจาก

ยันต์ อิติปิโสแปดทิศและตรีนิสิงเหใหญ่ ที่ผู้เขียนเขียนขึ้น โดยวิชานี้มีแนวคิดในการปรับชัยภูมิที่ดิน (แต่งเมือง) ซึ่งบางที่ก็ใช้ยันค์ หรือเครื่องรางอย่างอื่น เช่น วัวธนูพื้นเวียง ฯลฯ ฝังในที่ดินเพื่อปรับสภาพพื้นดินเช่นกัน 

  • การเรียนสอบถามเกี่ยวกับลักษณะของ “พระสูตรหลวงปู่ดู่” ซึ่งมีจุดเด่นที่บุญฤทธิ์และแสงสว่างบุญที่เจิดจ้ามาก เป็นประโยชน์แก่ภพภูมิ ซึ่งควรกระจายไปในที่ต่างๆให้มากที่สุด แต่ด้วยรูปลักษณ์ของ “พระ” ย่อมไม่เหมาะสม จึงควรเป็น รูปลักษณ์อื่น เช่น “ลูกแก้ว” มากกว่า ข้าพเจ้าและหมู่คณะเคยได้ถามท่านในเรื่องนี้ที่บ้านสวนของ “พี่โด่งวัดถ้ำ” จ.ขอนแก่น หลวงตาท่านยืนยันว่าทำได้ ขอให้ “อธิษฐาน” ให้เป็น
  • เมื่อคราวข้าพเจ้าไปร่วมงาน “งานมหาสโมสรสันนิบาตพุทธภูมิฯ” ข้าพเจ้าขึ้นไปติดตั้ง “ธงธรรมจักร” บนยอดเขา และอยู่ๆหมาก็หอนขึ้นกลางวันแสกๆ โดยหาสาเหตุไม่ได้ จนสหธรรมิกท่านหนึ่ง(ซึ่งนับถือกันในหมู่คณะว่ามีตาใน)ท่านตะโกนทัก “หมวด… สวดคาถาอะไร?” ในตอนนั้น(ตอนที่หมาหอนพอดีๆนั้น)ผมสัพเพฯ และกำหนดเป็นตาข่ายเพชรคุ้มครองบริเวณภูเขาและปริมณฑล… เรื่องนี้ผมถือเป็นเครื่องยืนยันในหลักแนวคิดของวิชา..
  • จริงๆก่อนหน้า ข้าพเจ้าเห็นแนวคิดวิชานี้จากการไปนมัสการรอยพระหัตถ์ที่ประทับโดยกสินไฟ ที่ จ.กาญจนบุรี ฝนฟ้ากำลังมา “หลวงปู่ดิน” ท่านเอาพัดโบกไปมา ท่านว่า “ทำตาข่ายฟ้า” ป้องกันฝน…
  • คำว่า “แต่งเมือง” คล้ายกับหลักแนวคิดในการ “แต่งคน” หรือ “แต่งทัพ” ที่แม่ทัพนายกองสมับโบราณจะต้องเรียนเพื่อให้กองทัพรบชนะหรือป้องกันมีดปืนในระหว่างสู้รบ แนวคิดนี้ยังคล้ายกับการปรับ “ชัยภูมิที่ดิน” โดยใช้ “ยันต์ตุโร” หรือ “ยันต์ตรีนิสิงเหใหญ่” ในการรองกระถางปลูกต้นว่านเพื่อให้ว่านมีอิทธิฤทธิ์มากขึ้นจากชัยภูมิที่ปรับแล้ว

ธงที่ยอดเขาที่ปรียนันท์ธรรมสถาน จ.นครสวรรค์ เมื่อครั้งข้าพเจ้าขึ้นไปปักธง (สังเกต มุมบนด้านขวาภาพมีริ้วแสงสีรุ้ง)

หลักการ

ตามปกติแล้วพระเครื่องที่สร้างด้วยผงจักรพรรดิ หรืออธิษฐานจิตด้วยเน้นในแนวบุญฤทธิ์ (พุทธบารมี-โพธิสัตว์บารมี-คุณพระบารมี ) พระเครื่องนั้นจะมีรังสี-ฉัพพรรณรังสีที่สว่างไสว แม้ในบางวาระสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อทีเดียว แสงสว่างนี้จึงเป็นเสมือนแหล่งดึงดูดความสนใจให้แก่ภพภูมิทั้งหลาย ด้วยเพราะในโลกทิพย์นั้น อย่างเทวดาในชั้นต่างๆ ท่านวัดกำลัง วัดศักดา วัดมหิทธานุภาพ กันด้วยแสงสว่างเป็นหลัก ด้วยเพราะรูปสมบัติ และทรัพย์สมบัตินั้นสมบูรณ์พร้อมกันแล้ว แสงสว่างนี้นอกจากเป็นแหล่งดึงดูดความสนใจแล้ว ยังเป็นเสมือนแหล่งบุญ หรืออาหารบุญที่เหล่าภพภูมิต้องการพึ่งบารมี (เช่นเดียวกับผู้ที่รักษาศีล ปฏิบัติธรรมนั้น ย่อมมีความผ่องใส มีความสว่างในตัว เทวดาท่านมักจะให้การปกปักษ์รักษาดูแล และมาร่วมโมทนาบุญด้วยเสมอ)

หากผู้ที่ถือคล้อง เข้าใจเรื่องของพลังงานบุญ และได้อธิษฐานพระเป็นเครื่องสื่อกำลังคุณพระทั้งหมดทั้งมวล ในการโน้มบุญบารมีในคุณพระและมอบอุทิศให้ภพภูมิ ไม่ว่าจะเป็นรูปนิมิตเช่นใด เช่น ฝนทิพย์บ้าง ดวงแก้วมณีทิพย์บ้าง อาหารทิพย์บ้าง แต่ที่แนะนำให้อธิษฐานกันในแนวปฏิบัติของหลวงปู่ดู่ คือ “รูปลักษณ์วิมานแก้ว” ด้วยเพราะมีความสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างในตัวแล้วนั่นเอง ภพภูมินั้นก็จะประกอบด้วยความสุขตามกำลังที่ได้รับ หรือตามกำลังที่จะสามารถรับได้(บางภพภูมิอยู่ในภาวะที่ลำบากมาก ไม่มีแม้ขณะเสี้ยวเวลาจิตที่จะอนุโมทนารับบุญ อย่างในนรกที่ลึกๆ ก็มิสามารถรับบุญได้ คือกำลังบุญนั้นถึง แต่ผู้รับมิสามารถเข้าถึงได้นั่นเอง)

จะเห็นได้ว่า พระเครื่องโดยทั่วไป (ที่สร้างด้วยสูตรเฉพาะของหลวงปู่ดู่ วัดสะแกนี้) จะอธิษฐานครอบวิมานได้ก็ต่อเมื่อ มีผู้เข้าใจ เข้าถึง ได้ทำการอธิษฐานให้ (คนถือครองต้องกำหนดจิตเอง) ซึ่งมักจะเฉพาะมนุษย์ภูมิ ด้วยเพราะเป็นภพกลาง เป็นภพรอยต่อระหว่างดี-เลว และเป็นภพธาตุหยาบซึ่งเป็นที่ สร้าง ฟอก โน้มนำ กระแสพลังงานต่างๆได้โดยง่าย ภพภูมิอื่นๆอย่างเทวดา เป็นภพที่เสวยผลบุญ เป็นภพธาตุละเอียด จึงเป็นการลำบากที่จะทำการฟอกหรือโน้มบุญได้อย่างมนุษย์ภพ

การฟอกบุญ-โน้มบุญนี้ต้องถึงพร้อมด้วยรูป-นาม คือธาตุ-พลังงาน ซึ่งภพอื่นๆเช่น เทวดา นามนั้นพร้อมแต่ขาดรูปที่เหมาะสม…

ลักษณะของพระสูตรหลวงปู่ดู่-หลวงตาม้า พร้อมลูกแก้วจักรพรรดิที่มีการแพร่หลายกันพร้อมใบฝอยสั้นๆ

แต่ดวงแก้วจักรพรรดิชุดพิเศษที่สร้างขึ้นนี้ ได้อธิษฐานพิเศษเพื่อการปรับภพภูมิ รวมถึงแต่งเมืองเอาไว้ แม้โดยมิกำหนดจิต ด้วยอำนาจพุทธบารมี-โพธิสัตว์บารมี-คุณพระบารมี ที่ได้อธิษฐานเอาไว้ ตัวธาตุรู้-จิตรู้-พลังงานรู้ จะทำการดังอธิษฐานโดยอัตโนมัติ โดยทุกครั้งที่มีการสัพเพฯ พลังงานจะมีกระแสผ่านตรงไปยังดวงแก้วจักรพรรดิชุดนี้ด้วย ทำให้เกิดการปรับภพปรับภูมิในบริเวณอาณาเขตนั้น และผลอีกประการหนึ่ง เมื่อภพภูมิละแวกนั้นดีขึ้น ธาตุบริเวณนั้นจะเริ่มปรับไปในทางที่ดีขึ้น ความแห้งแล้ง ภัยธรรมชาติ การแปรปรวนทางสภาพอากาศจะเบาบาง จนถึงจุดสมดุล….ทั้งนี้ก็แล้วแต่มนุษย์ละแวกนั้นด้วย หากยังพร่องในศีล มีแต่มิจฉาทิฐิ กระแสดีและไม่ดีจะคานดุลกัน-หักล้างกัน ถ้าคุณธรรมความดีแพ้ พลังงานเสียมีมากกว่า คนเลวมีจำนวนมาก สร้างกรรมเวรจำนวนมาก ตรงที่นั้นไม่ช้านาน ก็ถึงกาลกลียุค เพื่อให้เกิดการล้างบาง นำไปสู่การปฏิรูปพลังงานใหม่ ตามวัฏจักรวงจรแห่งการตั้งอยู่-ดับไป… ซึ่งในปัจจุบันเริ่มมีเป็นที่ประจักษ์ให้เห็นกันชัดเจนแล้ว ประเทศใดที่ยังมีคุณธรรมอยู่บ้าง มักจะไม่โดนภัยพิบัติต่างๆทั้งมนุษย์ภัย และธรรมชาติภัย หนักหน่วงเหมือนกับประเทศที่มีแต่มิจฉาทิฐิ….ซึ่งจุดที่พลังงานมีกำลังขนาดปรับธาตุให้สมดุลได้นี้ เรียกว่า “แต่งเมือง”

ตัวอย่างคำอธิษฐานและวิธีการอธิษฐานจิต

๑. กำลูกแก้วในมือ จิตใจตั้งมั่นผ่องใส โน้มใจสื่อถึงพระตามถนัด จากนั้นกล่าวคำ อธิษฐานว่า (เป็นรูปแบบที่ “ผูกเป็นคาถา” ขึ้นเพื่อช่วยเกลี่ยจิตให้โน้มตาม ใครจะขยาย ใครจะย่อ ใครจะใช้เพียง “กำหนด” ย่อมได้ครับ)

“ลูก ขออาราธนาพระบารมีแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมดทั้งมวลตั้งแต่องค์ปฐมบรมมหาจักรพรรดิ จนถึงองค์ปัจจุบัน และตราบจนถึงพระฯองค์สุดท้าย บรมมหาจักรพรรดิทุกๆพระองค์ พระบารมีรวมพระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทุกชั้นภูมิ ตั้งแต่อดีต-ปัจจุบัน-และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ทวด-หลวงปู่ดู่-หลวงตาม้าท่านอันเป็นที่สุด

ขอหลวงปู่ได้โปรดมีพระเมตตา ให้ดวงแก้วพระจักรพรรดินี้ เป็นดวงแก้วมหาจักรพรรดิปรับภพภูมิ-แต่งเมือง ขอพระฉัพพรรณรังสีแห่งพระรัตนตรัยทั้งหมดทั้งมวลจงแผ่จากดวงแก้วมณีนี้ไปใน พื้นที่ ที่เป็นอนันต์ เพื่อยังการปรับภพภูมิ ครอบวิมานแก้ว ให้แก่เหล่าดวงจิต ดวงวิญญาณทั้งหลาย ตลอดจนถึงการปรับสภาวะธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศธาตุ ฤดูกาล สรรพสัตว์ พืชพรรณธัญญาหาร ทั้งหมดทั้งมวล ให้สมดุลบริบูรณ์พร้อม ให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์เจริญงอกงามปราศจากสิ่งรบกวน ให้บ้านเมืองมีแต่ความร่มเย็น เป็นพื้นฐานอาวาสเป็นที่สบาย เพื่อเอื้อต่อการปฏิบัติธรรม เอื้อต่อการก้าวย่างสู่สัมมาทิฐิแห่งภพภูมิทั้งหลาย

โดยขอให้ทรงไว้ตลอดทุกขณะเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน ต่อเนื่องสืบไป ขอให้กระแสแห่งดวงแก้วนี้จงมีผลกับดวงจิตทุกดวงทั่วทั้งแสนโกฐจักรวาลอนันตจักรวาล จงเชื่อมประสานกัน เมื่อดวงจิตใดภพภูมิใด กล่าวสัพเพอัญเชิญพระเข้าตัว ขอกระแสพระบารมีจงเชื่อมมายังดวงแก้วจักรพรรดิเหล่านี้ เพื่อเพิ่มกำลัง โดยแม้ผู้นั้นจะรู้ก็ตาม ไม่รู้ก็ตาม เจตนาก็ตาม มิเจตนาก็ตาม สาธุ ด้วยพระพุทโธ นะโมพุทธายะฯ

๒. ให้โน้มใจศรัทธาตั้งมั่น ผ่องใสเบิกบาน กล่าวคาถามหาจักรพรรดิจำนวนกี่รอบก็ได้ ตามความพอใจ หรือจนกว่าจิตจะเป็นสมาธิ มีอารมณ์ผ่องใสเบิกบาน ทรงภาพพระได้ชัดเจน

” นะโมพุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะสุธรรมา พุ ทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานังวะรังคันธัง สีวลีจะมหาเถรัง อะหังวันทามิทูระโต อะหังวันทามิธาตุโย อะหังวันทามิสัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ “

๓. จากนั้นจึงกล่าว คำอัญเชิญพระเข้าตัว เพื่ออธิษฐานจิตฝากและเชื่อมกระแสว่า

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส

(ในระหว่างนี้ให้วางจิตเบา ๆ โน้มนำบารมีพระเข้าตัว และรวมกำลังมาอยู่ที่ดวงแก้วมหาจักรพรรดินี้ จากนั้นให้ปิดด้วยบทคาถาอธิษฐานจิตว่า)

พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

๔. หลังจากนั้นให้กล่าวอธิษฐานต่อภพภูมิ ฝากให้ภพภูมิดูแลดวงแก้วนี้ ขออย่าได้ตกอยู่ในสถานที่หรือผู้ที่ไม่เหมาะสม เพื่อป้องกันการปรามาสโดยไม่ตั้งใจของผู้ไม่รู้ ด้วยเพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่มองดูเหมือนลูกแก้วที่ใส่ตามตู้ปลา หรือที่ใช้ดีดเล่นมาก เด็กอาจจะนำไปดีดเล่น หรือคนไม่รู้อาจจะไปเหยียบย่ำไม่รู้คุณค่าได้โดยกล่าวว่า

” ขอเทพไท้เทวดาทั้งหลาย ภพภูมิทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวล อนันตจิตอนันตธาตุทั้งหมดทั้งมวลที่เกี่ยวของกับธาตุ-อณูธาตุของดวงแก้วนี้ ไม่ว่าจะเป็นแสนโกฐอสงไขย หรืออนันตอสังไขยใดก็ตาม ขอจงมาร่วมอนุโมทนาบุญ มาช่วยกันปกปักษ์รักษาดูแล และร่วมเพิ่มกำลังแก่ดวงแก้วนี้ ขออย่าได้ตกอยู่ในสถานที่ หรือบุคคคลที่ไม่เหมาะสม เพื่อมิให้เกิดการปรมาสในพระรัตนตรัยโดยมิเจตนา แก่หมู่เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตั้งแต่บัดเดี๋ยวนี้จนถึงอนาคตกาลอันสมควรโน้นด้วยเทอญ”

จากนั้นจึงกล่าวสัพเพอัญเชิญพระเข้าตัวอีกครั้ง

สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส  พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

อนึ่ง เรื่องนี้หลวงตาม้าท่านเคยตอบคำถามกับผู้เขียนไว้ในบริบทว่า “ไม่ต้องห่วง…ถ้ามีคนไปปรามาส ไปเหยียบ อะไรอย่างนี้ พลังงานจะ ฟรึบ!! หายไป หายไปรวมกับแก้วลูกอื่น” พอสัพเพไปมากๆ หลายๆคนสวดหลายๆคนกำหนดจิต หลายๆคนสัพเพ พลังงานก็กลับมาใหม่…

๕. การปฏิบัติหลังจากอธิษฐานประดิษฐานดวงแก้วจักรพรรดิแล้ว : ให้หมั่นสัพเพกระแสพลังงานไปยังดวงแก้วทั้งหลาย โดยอธิษฐานเชื่อมกระแสดวงแก้วทุกดวงเป็นดั่งเครือข่ายเชื่อมต่อถึงกัน นิมิตเป็นสายฉัพพรรณรังสี โยงใยถึงกัน และให้เกิดความสว่างไสวครอบคลุมทั่วทั้งประเทศไทย หรือทั่วโลกอย่างสม่ำเสมอ (รูป-ธาตุได้วางไว้แล้ว ให้หมั่นอธิษฐานนามคือพลังงานบุญ ประจุเพิ่มพลังงานอยู่สม่ำเสมอ) โดยเฉพาะเมื่อเวลาสวดมนต์ใหญ่ 20.30 น.ของทุกวัน

เทปหลวงตาเทศน์เกี่ยวกับลูกแก้วจักรพรรดิที่ใช้ในการวางเครือข่ายจักรพรรดิ

การเลือกสถานที่จะทำการปรับภพภูมิแต่งเมือง

หลักการในการคัดเลือกสถานที่ ที่จะอธิษฐานประดิษฐานดวงแก้วพระจักรพรรดิชุดนี้ไว้ก็คือ

  1. เป็นสถานที่ยากแก่การเข้าถึง เป็นสถานที่ห่างไกล เช่นตามเทือกเขา ลำเนาไพร ป่าลึก ยอดภู ยอดเขา ท้องทะเลลึก ลำธาร แม่น้ำ เถื่อนถ้ำ เพื่อเป็นการโปรดภพภูมิต่างๆ สรรพสัตว์ สรรพวิญญาณต่างๆในที่ห่างไกล
  2. เป็นสถานที่พลุกพล่านไปด้วยคน ด้วยวิญญาณต่างๆ ที่ รอการสงเคราะห์ เพื่อการแต่งวิญญาณ แต่งคน แต่งเมือง ให้สมดุลกัน ให้กระแสต่างๆดีขึ้น เช่นตามห้างสรรพสินค้า ตลาดสด โรงอาหาร ป่าช้า โรงพยาบาล ค่ายทหาร โรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย ศาลากลางจังหวัด สถานที่ราชการที่สำคัญต่างๆ
  3. เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และสถานที่สำคัญต่างๆ เพื่อเป็นการเสริมกำลังแก่ภพภูมิระดับชั้นหัวหน้า เพื่อให้ภพภูมินี้คอยปกปักษ์รักษาหรือทำตามหน้าที่ของตนได้อย่าง คล่องตัว มีกำลัง เช่น ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เมืองเก่า เมืองโบราณ ศาลพระพรหม ศาลพระภูมิ วัด วัดร้าง รอยพระหัตถ์ รอยพระพุทธบาท รอยประทับนั่ง รอยวางไม้เท้า รอยวางบาท อนุสาวรีย์ (ซึ่งในสมัยที่ข้าพเจ้าเคยร่วมเดินทางไปกับคณะของหลวงตาในการจาริกไปสร้างบุญที่ต่างๆ หลายต่อหลายครั้งพอถึงเขตจังหวัดต่างๆ หรือผ่านศาลต่างๆที่คนนับถือ หลวงตาจะให้สัพเพฯ เพื่อฝากกระแส เพิ่มกำลังบุญแก่ภพภูมิหรือสถานที่แห่งนั้น โดยเฉพาะท่านให้กำหนดไปยังศาลหลักเมืองเพราะเป็นผู้ดูแลเมืองโดยตรง…)
  4. บรรจุในองค์พระ เช่น ที่ “หัวใจพระ” พระเศียร ใต้ฐานพระที่หล่อแล้ว หรือบรรจุในกรุ ในเจดีย์ เพื่อเพิ่มกำลังแก่พระ และเป็นสื่อกระแสถึงผู้มากราบไหว้พระหรือเจดีย์นั้น
  5. ประดิษฐานไว้ที่รถ เพื่อเป็นกองบุญเคลื่อนที่ โดยเฉพาะรถประจำทาง หรือรถของผู้ที่ทำงาน ที่ต้องใช้รถเดินทางอยู่สม่ำเสมอ เช่น ผู้แทนยา พนักงานขายประกัน พนักงานขาย

โดยควรนำไปไว้ในสถานที่ ที่อันควรด้วย และเป็นสถานที่คนจะไม่ไปรบกวน หรือคนจะไปหาเจอ แล้วนำไปกระทำการปรามาสโดยไม่เจตนา เช่น หากจะประดิษฐานไว้ที่ยอดเขาก็ควรฝากโคนไม้ใหญ่ฝังดินฝากแม่พระธรณีเอา ไว้ นำไปประดิษฐานในสระ หรือบ่อ-อ่างเก็บน้ำ ก็ควรนำไปไว้ที่กลางสระน้ำ การไปไว้ที่ห้างหรือร้านตลาดก็ควรนำไปไว้ที่ศาลตามห้างหรือร้านตลาด อาจจะมอบให้แก่พ่อค้าแม่ค้าที่เข้าถึงธรรม เข้าใจและศรัทธาในหลวงปู่ดู่-หลวงตาม้า

คือให้มองหารูปนามอันควรแก่สิ่งอันควรยิ่งนี้ด้วย เพราะตามปกติแล้วการสร้างดวงแก้วนี้ถึงรูปลักษณ์จะเป็นดวงแก้ว แต่ภายในดวงแก้วท่านจะอธิษฐานพระอยู่ภายในด้วยเสมอ ก็ลองตรองพิจารณาดูละกันครับ ว่าเราจะนำพระ ไปประดิษฐานไว้ในที่อันควรแห่งใด…

อย่างไรเมื่ออธิษฐานประดิษฐานดวงแก้วไว้ในที่ใดก็อย่าลืมขอขมาพระรัตนตรัยด้วยบทขอขมาพระรัตนตรัยที่มีอยู่หลายบทที่นิยมกัน เช่น

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต

ขอพระองค์ได้อดโทษทั้งปวง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

อุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง

ข้าพระพุทธเจ้า ขอวโรกาส ที่ได้พลั้งพลาดด้วยกาย วาจา ใจ

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต

ขอพระองค์ได้อดโทษทั้งปวง แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

ข้าพระพุทธเจ้า ขอวโรกาส ขอขมาโทษทั้งปวง ต่อคุณพระพุทธเจ้าด้วยเถิด

“หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธ เจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม และ พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ในชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดี และด้วยเจตนา หรือไม่เจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย และผู้มีพระคุณทุกท่าน ได้โปรดอดโทษ ให้แก่ข้าพระพุทธเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน ด้วยเทอญ …”

หรืออาจจะใช้บทขอขมาพระตามแบบของหลวงปู่ดู่ วัดสะแกก็ได้ดังนี้(บทสวดดั้งเดิมของ วัดประดู่ทรงธรรม ที่ศิษย์ทุกท่านจะต้องสวดมนต์ก่อนนั่งกัมมัฏฐาน)

โยโทโสโมหะจิตเต นะพุทธัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

การกระทำ อันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

โยโทโสโมหะจิตเต นะธัมมัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

การกระทำอันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระธรรมเจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

โยโทโสโมหะจิตเต นะสังฆัสมิง ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะเม กะตัง โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

การกระทำอันหลงผิดอันใด ซึ่งกระทำล่วงเกินแล้วในคุณพระสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอกล่าวคำขอขมา เพื่อการบาปกรรมทั้งหลายทั้งปวงจงสูญสิ้นไป

หมายเหตุ

บทความดังกล่าวเขียนขึ้นเพื่อมอบให้กลุ่ม ศูนย์วางลูกแก้วจักรพรรดิทั่วโลก ในยุคแรกเริ่ม (เป็นไอเดียในการปรับใช้) ซึ่งต่อมาถือเป็นกลุ่มใหญ่และสร้างประโยชน์กับวิญาณและโลกมากมาย ขออนุโมทนาครับ … โดยหลักๆของการวางลูกแก้วได้ประโยชน์หลัก ๒ ประการคือ

  • เป็นกองบุญช่วยปรับภพภูมิ
  • ปรับชัยภูมิ ตกแต่งบ้านเมือง ตลอดจนยังยั้ง บรรเทา เยียวยา ภัยพิบัติ

ตอนนี้เครือข่ายแก้วจักรพรรดิถือว่าไปได้ไกลมากแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของการปฏิบัติและช่วยกันสัพเพฯ เพื่อโลกของเราจะค่อยๆดีขึ้น และดีขึ้นครับ… ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่เคยสิ้นหวัง หวังว่าโลกที่สวยงามน่าอยู่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้…

หมวดอรรถ

ปรับปรุงเพิ่มเติมบทความ ๓ ม.ค.๖๒

ทีมงาน: ssbedu.com

แสดงความคิดเห็นด้วย Facebook
คะแนนเฉลี่ยที่ผู้อ่านให้
[จำนวนผู้โหวต: 1 คะแนนเฉลี่ย: 5]
Bookmark the permalink.

Comments are closed.